1.พอล ป็อกบา เมื่อปี 2011 ป็อกบาตัดสินใจย้ายทีมจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปร่วมทีมกับยูเวนตุส ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เขาเล่นให้กับยูเวนตุสป็อกกลายแจ้งเกิดทันที และโด่งดังไปทั่วโลก ปัจจุบันเขาถูกแมนยูตึงกลับมาเล่นอีกครั้ง 2.เคราร์ด ปิเก้ ยอดกองหลังระดับโลกรายนี้ย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปร่วมทีมกับบาร์เซโลน่า ตั้งแต่ปี 2008 ปัจจุบันเขากลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของบาร์เซโลน่าไปแล้ว และติดทีมชาติสเปนมาโดยตลอด 3.เมมฟิส เดอปาย เดอปายถูกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขายให้กับทีมโอลิมปิก ลิยง เมื่อปี 2017 โดยการย้ายไปร่วมงานกับต้นสังกัดใหม่เขาได้แจ้งเกิดกับโอลิมปิก ลิยงแบบเต็มตัว ยิงประตุไปแล้ว 19 ประตู ในฤดูกาลที่แล้ว 4.ดีเอโก้ ฟอร์ลัน เมื่อปี 2004 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจขายฟอร์ลันให้กับทีม บียาร์เรอัล ซึ่งเขาไปทำผลงานให้กับบียาร์เรอัลได้อย่างยอดเยี่ยมยิงไป 59 ประตู จากการลงเล่น 128...

คลีนชีท คือ การที่ผู้รักษาประตู ไม่เสียประตูในแต่ละนัด ติดต่อกัน เวลาเท่าไหร่ กี่นัดโดยไม่ได้นับผล  นิตยสารฟุตบอล โฟร์โฟร์ทู ของอังกฤษ เผย ผู้รักษาประตู ที่สามารถเก็บคลีนชีทได้มากที่สุดของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อันดับหนึ่งคือเปเป้ เรน่า อดีตผู้รักษาประตูของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ลงเล่นทั้งหมด 285 เกม เก็บคลีนชีทไม่เสียประตุเลยได้ถึง 134 เกม 47.02 เปอร์เซ็น อันดับต่อมาคือ ปีเตอร์ เช็ค มี 45.68 เปอร์เซ็น และเรามาดู 10 อันดับผู้รักษาประตูที่เก็บคลีนชีทได้มากที่สุดกัน เปเป้ เรน่า 134 คลีนชีท จาก 285...

1.เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมาเขาได้รับความไว้วางใจของทีมให้สวมเสื้อหมายเลข 10 ด้วยการยิงประตูให้กับทีมได้อย่างมากมายโดยชื่อของเขาติดอัน 1 ใน 5 ดาวซัลโว มาตลอด 2.มาคัส แรชฟอร์ด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษคนนี้แจ้งเกิดกับแมนยูได้อย่างเต็มตัว ด้วยพรสวรรค์และทักษะของเจ้าหนูคนนี้มีทั้งความเร็วและยิงประตูได้อย่างเฉียบคม 3.แฮรร์รี่ เคน (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) กับตันทีมชาติอังกฤษรายนี้ที่ว่ากันว่านี่คือนักเตะความหวังของประเทศอังกฤษเลยก็ว่าได้ ตอนนี้เขาไต่เต้าขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลกได้อย่างเต็มตัว ด้วยการยิงประตูอย่างถล่มถลาย 4.ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล) ตั้งแต่เขาย้ายมาร่วมทีมกับลิเวอร์พูล มาเน่ เป็นกองหน้าทีเด็ดของทีมมาตลอด โดยไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมายซึ่งเขาเล่นในพรีเมียร์ลีกมาก่อนกับทีมเซาแธมป์ตัน 5.เอเดน อาซาร์ (เชลซี) ดาวเตะทีมชาติเบลเยียมรายนี้คือส่วนสำคัญของเชลซีมาโดยตลอด โดยการพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และ ยูโรป้าลีก ซึ่งทักษะการเล่นของเขามีครบหมดทุกอย่าง

1.โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ดาวเตะทีมชาติอียิปต์ วัย 26 ปี เพิ่งย้ายมาร่วมทีมกับลิเวอร์พูลได้เพียง ปีเดียวลงเล่นไปได้หมด 52 เกม ยิงไปแล้ว 44 ประตู และเป็นดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2017/18 อีกทั้งยังเป็นนักเตะที่ยิงมากที่สุดของพรีเมียร์ลีกล่าสุด 2.สตีเว่น เจอร์ราร์ด นับเป็นอีกหนึ่งตำนานของสโมสรลิเวอร์พูล พาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ได้ในปี 2005 และเคยเป็นดาวยิงสูงสุดของโมสร 4 สมัย ปัจจุบันได้ผันตัวเป็นผู้จัดการทีมไปแล้ว 3.หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงสูงสุดอีกคนหนึ่งของหงส์แดง เคยเกือบพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จแต่น่าเสียดายพ่ายกับเชลซีต้องจบอยู่ที่อันดับ 2 ของตารางเมื่อปี 2012 เคยเป็นดาลซัลโวพรีเมียร์ลีกยิงได้ 31 ประตู 4.เฟร์นานโด ตอร์เรส ตอร์เรส เคยโด่งดังมากสมัยพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2005 ได้รับดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกในปี 2007 ปัจจุค้าแข้งกับสโมสร...

สื่อข่าวจากสำนัก เดลี่ เมล ของประเทศอังกฤษเผย นักเตะ 4 ตำแหน่งยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก ผู้รํกษาประตู-กองหลัง-กองกลาง-กองหน้า โดยการแข่งขันผ่านมา 4 นัดเท่านั้น อลีสซง เบ็คเกอร์ (ผู้รักษาประตู) ที่เพิ่งย้ายจากสโมสรโรม่ามาร่วมทัพกับลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ซึ้งตอนนี้เขาทำผลงานได้ดีเป็นอย่างมากสามารถเก็บคลีนชีทได้ 3 นัด จาก 4 เกม เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ (กองหลัง) ปราการหลังของสโมสรเบิร์นลี่ย์ ปัจจุบันเขาได้รับคำชมว่าเป็นกองหลังที่เล่นได้โด่ดเด่นที่สุดของพรีเมียร์ลีก มีสถิติการสกัดบอลได้ 34 ครั้ง ลูกโด่ง 28 ครั้ง และการบล็อก 7 ครั้ง จอร์จินโญ่ (กองกลาง) นักเตะของสโมสรเชลซี ผ่านมาทั้งหมด 4 เกมของพรีเมียร์ลีกเขามีสถิติผ่านบอลสำเร็จได้ 417...

วันนี้ขอเสนอรถราคาแพงที่ นักเตะระดับโลก ใช้กันในปัจจุบัน แต่ละคนใช้รถหรูและโครตแพง  มาดูกัน 1.คาเรม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด) อีกหนึ่งคนที่สนใจขับรถราคาแพงใช้รถ Bugatti Veyron ราคาในประเทศไทยก็คงไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาทแน่นอน   2.ซามูเอล เอโต้ นักเตะแอฟริกายากจนที่สู้จนได้ดิบได้ดี ใช้รถ Bugatti Veyron ซึ่งมีราคาโครตแพงถ้าอยากได้มาขับที่ประเทศไทย ต้องเตรียมเงินถึง 700 ล้านบาท 3.คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ (ยูเวนตุส) ใช้รถ Bugatti Veyron รถคู่ใจของเจ้าของบัลลงดอร์ 5 สมัย ต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้วและก็เป็นคนเดียวกันกับ คาเรม เบนเซม่า กับ ซามูเอล เอโต้ 4.สลาตัน อิบราฮิมโมวิช (แอลเอ...

มีการเปิดเผยสถิติค่าตัวของ 11 ตัวจริง นักเตะทีมชาติบราซิล รวมกันมีมูลค่าสูงถึง 670 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 28,000 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งทีมชาติบราซิลก็เป็นอีกหนึ่งชาติที่โด่งดังในเรื่องฟุตบอลเป็นอย่างมากและได้แชมป์โลกถึง 5 สมัย เรามาดูกันว่า 11 ตัวจริงมีมูลค่าเท่าไหร่ 1.อลีสซง เบ็คเกอร์ (ผู้รักษาประตู): ลิเวอร์พูล 65 ล้านปอนด์ 2.ฟาบินโญ่: ลิเวอร์พูล 44 ล้านปอนด์ 3.มาร์กินยอส: ปารีส แซงต์ แชร์ก แมง 27 ล้านปอนด์ 4.ติอาโก้ ซิลวา: ปารีส แซงต์ แชร์ก แมง 33 ล้านปอนด์ 5.ฟิลิเป้ ลุยส์: เชลซี...

1.เจอร์เมน เดโฟ (บอร์นมัธ) กองหน้าตลอดการของสโมสรบอร์นมัธ วัย 35 ปี ถึงอายุเขาจะมากแต่เขามักได้ลงสนามเป็นตัวจริงอยู่เสมอ สถิติการยิงประตู ยิงได้ 91 ประตู 2.เจมส์ มิลเนอร์ (ลิเวอร์พูล) กองกลางที่เล่นได้ทุกตำแหน่ง วัย 32 ปี ลงเล่นไปแล้ว 489 นัด แจ้งเกิดกับทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีส่วนช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ 2 สมัย ปัจจุบันย้ายมาเล่นให้กับลิเวอร์พูล 3.ปีเตอร์ เช็ก (อาร์เซน่อล) ผู้รักษาประตูอดีตกับตันทีมชาติอังกฤษ วัย 36 ปี ลงเล่นไปแล้ว 440 นัด เริ่มต้นมาอยู่เชลซีตั้งแต่ปี 2004 และช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ถึง 4 สมัย ก่อนจะย้ายไปร่วมทัพกับอาร์เซน่อลในปี...

1.ยูเลียน บรันด์ท (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น) เขาเป็นนักเตะที่ได้รับอากาสลงสนามอย่างต่อเนื่องให้กับทีม เลเวอร์คูเซ่น โดยได้รับฉายาว่าจอมจ่ายบอลทะลุช่อง ยิงประตูให้กับทีม 27 ประตู 2.ลีออน เร็ตซ์ก้า (บาเยิร์น มิวนิค) แข้งวัย 23 ปี รายนี้ เคยได้รับเป็นกับตันของทีมชาติเยอรมันสมัยรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี อีกทั้งยังพาทีมชาติเยอรมันเข้ารอบการแข่งขันฟุตบอลยุโรปรุ่น อายุไม่เกิน 17 ปีอีกด้วย 3.ลีออน เบลีย์ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น) นักเตะรายนี้ในฤดูกาลที่ผ่านมาเขาพาทีม เลเวอร์คูเซ่น จบอันดับ 5 ของตาราง นับว่าเป็นดาวรุ่งที่พาทีมเกาะกลุ่มหัวตารางได้ 4.อักเซล วิตเซล (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์) มิดฟิลด์ตัวรุก ที่ได้ดาวรุ่งยอดยเยี่ยมเมื่อปี 2008 ของ ลีกบุนเดสลีกา ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะอายุ 29...

ปัจจุบันทีมฟุตบอลที่กำลังมาแรงและลงทุนมากที่สุดคงไม่พ้น “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยสามสี่ปีที่ผ่านมาแมนซิตี้ได้เจ้าของสโมสรคนใหม่ทำทีมซึ่งเป็นมหาเศรษฐีจากดูไบเลยทีเดียว เรามาดูสโมสรที่ใช้เงินซื้อนักเตะมาร่วมทีมตั้งแต่ปี 2010 กัน 1.แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใช้เงินไป1.47 พันล้านยูโร หรือ 58,800 ล้านบาท 2.เชลซี ใช้เงินไป 1.31 พันล้านยูโร หรือ 52,400 ล้านบาท 3.บาร์เซโลน่า ใช้เงินไป 1.25 พันล้านยูโร หรือ 50,000 ล้านบาท 4.ปารีส แซงต์ แชร์ก แมง ใช้เงินไป 1.24 พันล้านยูโร หรือ 49,600 ล้านบาท 5.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้เงินไป 1.10 พันล้านยูโร...